Forget My Lonely Heart - นิยาย Forget My Lonely Heart : Dek-D.com - Writer
×

    Forget My Lonely Heart

    ผู้เข้าชมรวม

    125

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    125

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  10 เม.ย. 63 / 10:16 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    " พิม! พี่พร้อมรึยางงงงง​ สายแล้วววว​​" 


    " ฉันกำลังลงปายยยย​" สวัสดีฉันชื่อพิม​ แล้วคนที่เรียกฉันเมื่อกี้นี้​ น้องชายฉันเอง​ พีท​ 


       วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันจะได้ทำงานจริงๆจังสักทีหลังจากฉันหาประสบการณ์​มาหลายปี ฉันจะบอกให้รู้เองว่าฉันทำงานเป็นอะไร​แต่หลังจากที่ฉันเตรียมตัวเก็บข้าวเก็บของเตรียมย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่พร้อมกับเริ่มต้นการทำงานครั้งใหม่! 


     " พี่! โถ่ว  สายแล้วนะเอามานี่! ผมเก็บให้! "


         น้องของฉันเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับอารมณ์​ที่หงุดหงิดแล้วเเน่งเอากระเป๋าจากมือฉันไปเก็บข้าวของแทนฉันอย่างเหลืออดเหลือทนกับความชักช้าของฉัน

     

        " แหม​ ฉันก็รีบเก็บอยู่นี่ไงเล่า!" ฉันพูดพร้อมรีบเดินไปเก็บพวกของใช้ส่วนตัว​ เราช่วยกันเก็บ​ของ​ เอ่อ​ ใช้คำว่า​ น้องชายช่วยฉันเก็บของดีกว่านะ​ ประมาณ​ไม่ถึงสิบนาที​ น้องชายฉันก็ขนของลงไปไว้ที่รถ​ ส่วนฉันเดินตามหลัง


        " เอ้า​! เรียบร้อย​ เหลืออะไรอีกมั้ยนะ? " 


    น้องฉันเก็บของทุกอย่างขึ้นรถ​เรียบร้อยหมดแล้วแต่น้องฉันกลับยืนมองของที่หลังรถที่ตัวเองเป็นคนขนขึ้นมาแล้วบ่นพึมพำกับตัวเอง​ ลืมอะไรรึเปล่านะ? ไม่หนิ​ น้องฉันไม่ใช่คนที่จะลืมอะไรง่ายๆสักหน่อย


         " นี่มัวยืนทำอะไรอยู่น่ะ? เดี๋ยวก็ขึ้นเครื่องสายหรอก​ ทีนั้นบ่นแต่ฉันนะ​ " ได้ทีฉันบ่นคืนบ้าง​ อิอิ


          "  นี่พี่​ นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้อยู่​ อเมริกาแล้วนะ​ มันก็ต้องตรวจสอบดีๆสิ​ อืมม​ นั้นไง! ฉันนึกออกแล้ว! รอแปปนะ​ "​ 


          จริงสิตอนนี้เราอยู่ที่อเมริกา​ นิวยอร์ก​ แต่​ ฉันต้องทำงานอยู่ที่นี้น่ะ​สิ​ เราสองคนเป็นคนไทยแท้นะ​แต่พ่อกับแม่ฉันย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่อเมริกาที่นิวยอร์ก​ตั้งแต่ฉันอายุ​ 10 ขวบ​ แต่ตอนนี้ฉัน​อายุ​ 23 และน้องชายฉัน​ 18​ ฉันโอนเป็นสัญชาติ​ อเมริกา​ แต่น้องชายฉันโอนกลับไปเป็นสัญชาติไทย​ เพราะฉันให้เขาเลือกว่าจะอยู่ที่ใหนจะกลับไทยหรือจะอยู่กับฉันที่อเมริกาเเบบถาวร​ 

         

          ซึ่งเขาก็โตพอที่จะเลือกคำตอบและเส้นทางชีวิตของเขาแล้ว​ ส่วนพ่อกับแม่ของเราสองคนน่ะเหรอ​ พวกท่านเสียไปตั้งแต่ฉันอายุ​ 15​ ตอนนั้นน้องฉันร้องไห้หนักมากเลยล่ะ​

         แต่เราก็ถูกรับเลี้ยงโดยญาติของเราเอง​ที่อยู่ที่นี่ แต่เราก็อยู่ได้ไม่นานฉันกับน้องชายก็ขอย้ายออกมาไม่ได้เรียกว่าขอเราหนีต่างหากเพราะญาติคนนั้นหน้าเลือดแถมทำร้ายทุบตีพวกเราอีก​ 


         เราหนีออกมาพร้อมมรดกที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้มันก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากเพราะพวกเรายังพอมีเงิน​ซื้อบ้านอยู่ต้องขอบคุณพ่อกับแม่ท่านล่ะนะ​ 


          " มาแล้ววว​ ขอโทษที่ให้รอ​" 


          " ลืมอะไรเหรอ​?" ฉันถามน้องชายสุดที่รักของฉัน


          " นี่ไง​ " 


          น้องชายฉันพูดพร้อมยกสิ่งของที่ตัวเองกลับเข้าไปเอาในบ้า​นมา​ ฉันแทบกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่​ มันเป็นจี้สร้อยรูปปลาโลมา​ทำมาจากหยก​ ที่พ่อกับแม่ซื้อให้พวกเราเป็นของคู่กันสองพี่น้อง​ ของฉันเป็นสีขาว​ แต่ของน้องฉันเป็นสีม่วง​ แต่ฉันกับทำมันหายไม่รู้เอาไปไว้ใหน​ แต่ตอนนี้เจอมันแล้ว!!!!! 

    " นี่ยัยพี่บ้า​ ไม่ต้องมาร้องไห้เลยนะ​" 

    " แกนั่นแหลพีท​ ทำไมแกไม่บอกฉันว่าแกเจอมัน​แล้วเอามาให้ฉัน​ แกรู้มั้ยว่าฉันแทบเป็นบ้าตอนรู้ว่ามันหายน่ะ! ???? " 

                 " ไม่ต้องมาว่าฉันเลย​ พี่เป็นคนทำมันหายเองนี่​ ฉันเก็บไว้ให้ก็บุญแล้ว​ เอ้านี่! อย่าทำมันหายอีกล่ะไม่มีฉันหาให้แล้วนะ​ แล้วใส่ไว้ตลอดด้วยฉันจะใส่ไว้ตลอดเหมือนกัน​ "


                " อื้อ​ ไอ่น้องบ้า! "  ฉันเช็ดน้ำตาแล้วรับมันมาสวมใส่ไว้ที่คอของฉัน​ เฮ้อ​ นึกว่าหายสาบสูญ​ไปซะแล้ว​ตอนนั้นฉันหาแทบตายแหนะ  ดันมาอยู่กับเจ้าน้องชายตัวแสบซะได้​ ชิ​ เฮ้อฉันต้องคิดถึงนายมากๆแน่เลยล่ะพีท​ ฉันไม่อยากพูดไม่อยากคิดเลยว่าน้องชายตัวเเสบของฉันจะไปจากฉันแล้ว​ มันทำใจลำบากนะ​ กับคนที่ฉันอยู่ด้วยทั้งชีวิตจะไปจากฉันอีก​ แต่ฉันก็อยากให้เขาได้ตัดสินใจเองไปเผชิญ​โลกของตัวเองจะได้โตสักที​เป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเขาเอง ฉันคิดว่าฉันทำถูกแล้วล่ะ!!!!!! 


                " ไปกันเถอะ​" 


         ฉันสตาร์ท​รถ​ รีบขับไปที่สนามบินทันที​ 

    .


    .


    .


    .


    .​


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


         ณ​ สนามบิน​


         " ถึงแล้ว​ เดี๋ยวฉันขนของลงช่วย​ แล้วเดินไปส่งด้วยนะ​" 


         " พี่​ ไม่ต้องไปส่งผมหรอก​ ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ​" 


         " แต่แกก็ยังเป็นเด็กในสายตาพี่อยู่ดีนั้นแหละ​ เอาหน่าให้ฉันไปส่งแกเถอะพีท​ " 


         " ไม่​ ถือว่าผมขอเถอะ​ เดี๋ยวพี่ไป​สัมภาษณ์​งานสายนะ​  "


         "  งั้น​ ก็ได้​  "  ฉันรู้ความหมายคำพูดของน้องชายฉันดี​ เขาไม่ชอบการจากลาเขาไม่อยากให้ฉันเห็นน้ำตาของเขา​ 


          น้องชายและฉันกอดกันครั้งสุดท้ายก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเดินเข้าสนามบินไป​ 


         " ฉันรักนายนะไอ่น้องตัวแสบบบอย่าลืมมาเที่ยวหากันบ้างงนะะ​ ถึงแล้วก็คอลมาด้วย​ยย​" 


         น้องฉันหันกลับมาแล้วยิ้มให้ฉันแล้วตอบกลับมาว่า


         " รักเหมือนกันนะยัยพี่อ้วนนน​ ❤️????​ " 


         " ???? " 


         ฉันยืนมองเขาเดินเข้าไปในสนามบินจนแน่ใจแล้วว่าไม่เห็นเขาแล้ว​ ฉันรีบขึ้นรถแล้วรีบบึ่งรถไปที่ทำงานของฉันทันที​ พร้อมกับพูดให้กำลังใจตัวเอง


        " ขอให้เป็นวันที่ดีนะ​ ????​" 


    .





    .​


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


          ณ​ สถานที่ทำงานของพิม​ 


         ฉันขับรถวนเข้าไปในโรงจอดรถ​ แล้วเดินขึ้นตึก​ไปอย่างใจเย็น​ และรู้สึกว่าฉันมาก่อนเวลานัดสัมภาษณ์​งาน​ 20​ นาที​ ก็ถือว่าทำเวลาได้ดี


         ฉันเดินมานั่งรอตรงที่ผู้คนนั่งคาดว่าน่าจะเข้ามาสัมภาษณ์​งานเหมือนกันกับฉันเอง​  ฉันเดินมานั่งข้างๆผู้ชายคนนึง​ ดูแกกว่าฉันประมาณ​ 10 กว่าปีเลยล่ะ​ ลักษณะดู​มีอายุขรึมๆ​ 


          ดูเหมือนชายคนนั้นจะสังเกตได้ว่าฉันมานั่งลงข้างๆของเขา​ เขาไม่รอช้ารีบยื่นมือมาทักทายแทบจะทันที


         " สวัสดี​ ผม​ ไลลีย์​ ฮาร์ท​สัน​ คุณมาสัมภาษณ์​งานเหรอครับ? "  ผู้ชายคนนี้แนะนำตัวก่อนที่ฉันจะนั่งลงเสียอีก  เพื่อไม่เป็นการเสียมารยาท​ฉันรีบยื่นไป​ ตอบรับเค้าเหมือนกัน


         " สวัสดี​เช่นกันค่ะ​ ฉัน​ พิม​ ยินดี​ที่​ได้​รู้จัก​ค่ะ​ ใช่ค่ะ​คุณก็มาสัมภาษณ์​งานเหมือนกันเหรอคะ?  "  ฉันถามเขากลับไปเป็นมารยา​ท


        "  ป่าวหรอกผมมารอทำคดีน่ะ​ เด็กใหม่สินะ​ มารับตำแหน่งอะไรล่ะ?"  


         "  หน่วยสืบราชการลับค่ะ​" ใช่​ คุณฟังไม่ผิดหรอกตอนนี้ฉันกำลังจะได้รับงานนี้ล่ะ​ หรือเรียกง่ายๆคือ​ CIA​ ผู้คนอื่นๆก็มากันเยอะ​ เพื่อที่จะมาทำงานตำแหน่งนี้​ พวกเราผ่านบททดสอบ​ และข้อสอบเขียนมาแล้วจึงได้มาสัมภาษณ์​งานได้ แต่ก็นะ​ มันมีความเกร็งตรงที่เขารับแค่​ 10 คนน่ะสิ​ เห้อ​ แล้วตอนนี้จากที่ดูๆแล้วน่าจะมีคนประมาณ​ 40​ คนที่นั่งรอสัมภาษณ์​ เห้อ​ กังวลจัง


         " CIA​ สินะ​ กังวลเหรอสาวน้อย?" เฮ้​!? นี่เขาตั้งคำถามเก่งจัง​  อย่างกับมาสัมภาษณ์​เองงั้นแหละ? 


         " ค่ะ​ ก็นิดหน่อยค่ะ​ แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ​ ยังไงฉันต้องผ่านให้ได้อย่างแน่นอน! " 


         " ดี​ อย่าได้กังวลไปล่ะ​ มั่นใจเข้าไว้​ ฉันต้องไปแล้วล่ะฉันต้องไปทำคดีเพิ่ม​  "


        ยังไม่ทันทีจะบอกขอบคุณผู้ชายคนนั้นก็รีบลุกจากที่นั่งเดินออกไปทันทีเลย​ ฟู่วว​ ถ้าได้งานนี่​ งานต้องท่วมหัวฉันแน่​ ไม่เป็นไรฉันต้องสู้เข้าไว้! ไม่เป็นไรพิมเธอทำได้!..........................................................


         







    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น